อาหารสมอง
แนะนำหนังสือดีๆ แหล่งความรู้ อาหารสมอง ที่ทุกคนควรหามาอ่าน อ่านหนังสือพวกนี้ให้จบอย่างน้อยเดือนละ 1 เล่ม และนำหลักคิดมาปรับใช้ เชื่อว่าทุกคนจะประสพความสำเร็จในชีวิตอย่างแน่นอน
“การลงทุนเพื่อเปิดโลกทัศน์และแสวงหาความรู้ใหม่ๆให้กับตัวเองอยู่เสมอ ทั้งในและนอกห้องเรียน ถือเป็นการลงทุนที่ดีที่สุดและให้ผลตอบแทนคุ้มค่ามากที่สุด” - Warren Buffett
Awaken the Giant Within
7 Habits of Highly Effective People
Rich Dad Poor Dad
Secrets of the Millionaire Mind
Think and Grow Rich
The 4-Hour Work Week
เงิน 4 ด้าน
เรื่องจริงที่คนทุกคนควรอ่าน ควรศึกษาก่อนเริ่มชีวิตการทำงาน แต่ความเป็นจริงคือ คนไทยยังรู้เรื่องนี้น้อยมาก บ้างก็มามีโอกาสได้รู้ก็ตอนที่อายุมากแล้ว และบางคนไม่เคยรู้เรื่องนี้เลยจนเกษียรอายุการทำงาน และนั้นก็อาจจะสายเกินไป ผมได้มีโอกาสไปดูวีดีโอที่โรเบิร์ตพูดไว้ในเรื่องเงิน 4 ด้าน ไว้น่าสนใจมาก เลยนำมาแปลไว้ให้ฟังตรงนี้ครับ


คุณเคยรู้สึกไหมว่ากำลังถอยหลังเข้าคลองทั้งๆที่พยายามทำให้ดีที่สุดทุกอย่าง เล่นตามกฎแต่ระบบต่างๆกลับล้มเหลว ชักหน้าไม่ถึงหลัง เรื่องความก้าวหน้าน่ะเหรอไม่ต้องพูดถึง เกษียรน่ะเหรอลืมไปได้เลย ทุกวันนี้แค่ให้รอดไปวันๆก็ยังยากเลย คุณอยากสร้างความมั่นคงและความมั่งคั้ง แต่มันก็ไม่เป็นผล แล้วที่เล่นตามกฎมาตลอด มันจะพาเราไปถึงไหน หากแต่คุณเปลี่ยนมุมมองเสียใหม่ เปลี่ยนค่านิยมบางอย่าง เปลี่ยนกฎเกณฑ์ไปบ้าง คุณก็จะพบว่ามันมีอีกกฎนึง ที่เหมาะกว่า สำหรับคนที่อยากจะรวย...
เรื่องของพ่อรวยสอนลูก เป็นเรื่องราวของพ่อจนและพ่อรวย ที่สอนลูกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งไม่มีเจตนาลบหลู่เสียดสีค่านิยมของใครในสังคม ถ้าคุณมองค่าของเงินจะพบว่าในเชิงเศรษฐศาสตร์มีค่าลดลงทุกปี แล้วคุณจะมานั่งเก็บออมสิ่งที่มีค่าลดลงไปทุกปีทำไม และนี่ก็คงต้องทำให้ผู้วางแผนการใช้ชีวิตหลังเกษียรอายุต้องคิดใหม่ เพราะค่าเงินหลังเกษียรอายุมันจะลดลงไปเรื่อยๆขณะที่ค่าครองชีพกลับสูงขึ้น
แผนภูมิเงิน 4 ด้าน คือ การแบ่งประเภทของคน 4 แบบที่ประกอบกันอยู่ในโลกธุรกิจ
E (Employee) : ลูกจ้าง ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างตำแหน่งน้อยใหญ่ ภารโรงยันประธานบริษัท ค่านิยมหลักของพวกเค้าคือ พวกเราหางานที่ปลอดภัย มั่นคง และมีสวัสดิการดีๆ
S (Self Employed) : นายตัวเอง เช่นกันครับ พวกเค้าก็มีค่านิยมหลักคือ ถ้าอยากให้มันดีก็ต้องทำเอง S เลยหมายถึง Solo ครับ ต้องทำเอง ทำเองคนเดียว
B (Business Owner) : เป็นเจ้าของระบบ มองหาเครือข่ายงานดีๆ ระบบดีๆ แล้วหาคนเก่งๆมาช่วยทำธุรกิจ มาทำแทนตัวเอง พวกเค้าต่างจากพวก S ตรงที่ไม่อยากเข้ามาบริหารด้วยตัวเอง
I (Investor) : นักลงทุน และนี้คือพวกที่ให้เงินทำงานแทนพวกเค้า
ในช่วงต้นๆของชีวิตผมพ่อจนของผมเคยสอนว่า รู้ไหมตอนเด็กๆลูกควรขยันเรียนหนังสือหางานดีๆทำ ดังนั้นค่านิยมหลักของพี่จนของผมก็คือการเป็นลูกจ้าง ท่านต้องการงานที่มั่นคง การเลื่อนตำแหน่ง และเงินเดือนที่สม่ำเสมออะไรทำนองนั้น และ ส่วนพ่อรวยของพมพูกว่า รู้ไหมถ้าลูกอยากจะรวยลูกต้องเรียนรู้วิธีสร้างธุรกิจ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เข้าท่าที่จะทำงานหนักเพื่อจะสร้างธุรกิจ อะไรที่คุณเป็นเจ้าของมัน อะไรที่ถ่ายทอดตกทอดให้ทายาทรุ่นหลังได้ ในขณะที่พ่อจนสอนว่าต้องทำงานหนัก แต่พ่อรวยบอกว่าทำไมต้องทำงาหนักในสิ่งที่คุณไม่มีวันเป็นเจ้าของและสามารถถูกไล่ออกได้ทุกเมื่อ และนี่เป็นค่านิยมที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ในฝั่งซ้ายของเงิน 4 ด้าน คนพวกนี้ทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพ ทำงานเพื่อหาความมั่นคงในชีวิต ส่วนคนในฝั่งขวาของเงิน 4 ด้าน คนพวกนี้มีค่านิยมที่ต้องการอิสรภาพ พวกเค้าไม่ต้องการที่จะมารับจ้างทำงานอีกต่อไป พวกเค้าไม่อยากที่จะต้องทำงานไปอีกตลอดชีวิต ดังนั้นความงดงามในการสร้างธุรกิจและการเรียนรู้การลงทุนคือการสร้างรายได้ที่ไม่ต้องออกแรงทำงาน หรือ Passive Income ทำงานหนักเพียงแค่ไม่กี่ปีแรกแล้วก็มีรายได้หลั่งไหลเข้ามาไปตลอดชีวิตถึงแม้คุณไม่ได้ทำงานแล้วก็ตาม แล้วจากธุรกิจมากมายคุณจะเลือกธุรกิจไหนล่ะ เหตุผลหนึ่งที่ผมเลือกธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจนึงที่สมบูรณ์แบบที่สุด ก็เพราะบริษัทเหล่านี้จะร่วมทำงานกับคุณ พัฒนาทักษะทางธุรกิจให้คุณและสร้างให้คุณร่ำรวย แต่ให้ระลึกไว้ว่าไม่ใช่เงินที่ทำให้คุณรวยนะครับ แต่มันคือทักษะทางธุรกิจ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมมันถึงเป็นธุรกิจที่สมบูรณ์แบบ คุณสามารถใช้เวลานานเท่าที่ต้องการเพื่อให้ได้ทักษะในการทำเงิน เป็นทักษะที่ใช้ได้ชั่วชีวิต อีกประเด็นนึงคือการลงทุนที่ต่ำมาก
แน่นอนครับ เราควรพยายามผลักดันตัวเองจากฝั่งซ้าย ไป ฝั่งขวาให้ได้ในที่สุด แต่สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลา อาจเป็น 1-2 หรือ 5 ปี แต่เมื่อคุณเห็นแก่นแท้ของคุณค่าทางฝั่งขวาแล้ว จะไม่มีอะไรมาหยุดคุณได้อีกต่อไป คุณจะไม่มีวันหันกลับมาเป็นลูกจ้างอีกต่อไป